ย้อนรอยทรราช ขณะนี้อุณหภูมิทางการเมืองไทยอยู่ในจุดที่พุ่งขึ้นอย่างขีดสุดจากฟากฝั่งของเด็กนักเรียน นักศึกษาและกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงในหมู่ชนชั้นนำและฝ่ายบริหาร เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งทำให้นึกย้อนไปในอดีตได้ว่าประวัติศาสตร์การเมืองอาเซียนก็เคยมีกรณีผู้นำที่เป็นดั่งความหวังของประชาชน อยู่ในอำนาจยาวนานก่อนที่เวลาจะผันเปลี่ยนจนกลายเป็นปีศาจร้ายและจบลงด้วยการลงจากอำนาจในที่สุด ซึ่งอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองของไทยได้ย้อนศึกษาเพื่อยับยั้งไม่ให้สิ่งที่เคยเกิดขึ้น มาเกิดกับประเทศไทยของเรา

ย้อนรอยทรราช ของเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้นำของฟิลิปปินส์ในช่วง 1965-1986 และซูฮาร์โต้ ผู้นำอินโดนีเซียในช่วง 1965-1998
เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้นำของฟิลิปปินส์ในช่วง 1965-1986 ในช่วงแรกมาร์กอส นำพาประเทศจนกลายเป็นยุคทองทางเศรษฐกิจ ประชาชนมีความนิยมในตัวเขาอย่างล้นหลาม เมื่อถึงการเลือกตั้งก็ได้รับคะแนนเสียงถล่มถลายเสมือนไม่มีคู่แข่ง จวบจนทองแห่งความดีเริ่มหลอก มาร์กอสพยายามแก้กฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเองอยู่ในอำนาจได้ยาวนาน ผนวกกับการทุจริตเงินภาครัฐอย่างมหาศาล นำมาสู่ความไม่พอใจของชาวฟิลิปปินส์ จนมีการประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่ปี 1972-1981

โดยตลอด 9 ปีนั้น รัฐบาลของมาร์กอสขึ้นชื่อว่าเป็นรัฐเผด็จการ ด้วยการกำจัด จับกุมและเข่นฆ่าผู้เห็นต่างไปมากมาย ทำให้ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ออกมาก่อจลาจล ก่อนที่สุดท้ายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จะลงจากอำนาจและหลี้ภัยไปยังเกาะฮาวาย สหรัฐอเมริกา
ซูฮาร์โต้ ผู้นำอินโดนีเซียในช่วง 1965-1998 การขึ้นมาสู่อำนาจของเขาใช้วิธีการบีบคับซูการ์โน่ให้ถอนตัวลงจากตำแหน่ง โดยในช่วงแรกเขาบริหารประเทศจนมีสถานะทางเศรษฐกิจที่ติดลมบน ประชาชนชื่นชอบ แต่ในขณะเดียวกันตลอดเวลาที่ซูฮาร์โต้อยู่ในตำแหน่ง เขาได้นำกองทัพเข้ามามีบทบาทสำคัญในรัฐบาล และสิ่งที่เลวร้ายคือใช้กำลังกวาดล้างผู้ที่ถูกสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์และกลุ่มคนจีน

เพื่อต้องการที่จะหลอมรวมทุกคนให้เป็นอินโดนีเซีย ทำให้ในยุคนั้นอินโดนีเซียต้องสูญเสียประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปเป็นจำนวนมาก จนมีการประท้วงเกิดขึ้นหลายครั้งแต่ก็ไม่มีผล แถมยังมีการเข่นฆ่านักศึกษาและผู้ประท้วงอีกด้วย สุดท้ายอำนาจของเขาก็สิ้นสุดลงด้วยพลังวิกฤตทางเศรษฐกิจปี 1997 ที่บีบบังคับให้ซูฮาร์โต้ต้องลงจากตำแหน่งเนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศพังทลายจนไม่เหลือร่องรอยแห่งความรุ่งเรืองเหมือนดั่งเช่นยุคเริ่มแรกที่เขาขึ้นมาครองอำนาจ
สุดท้ายประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นกับฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ซึ่งบุคคลที่กล่าวถึงเลือกความเป็นเผด็จการเข้ากำจัดผู้เห็นต่างจนเกิดความสูญเสีย จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าทุกคนต่างปรารถนาว่าความเห็นที่แตกต่างจะถูกปรับจูนด้วยการหันหน้าเข้าหากันในเร็ววัน
ติดตามข่าวสารอีกมากมายที่ ข่าวเด่น ข่าวร้อน อัพเดตทุกชั่วโมง และ มาเลเซีย เป็นประเทศล่าสุดที่โดนโควิด-19 และจะมีการล็อคดาวน์ในทุกรัฐของมาเลเซียทั้ง 2 เกาะหรือไม่