สาวประเภทสองคลุ้มคลั่ง ใช้อีโต้ฟันตู้ ATM  เสียหายหลายแสน 

สาวประเภทสองคลุ้มคลั่ง เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 16 มกราคม 2565 ได้รับแจ้งเหตุคนคลุ้มคลั่ง ใช้มีดอีโต้ขายทรัพย์สินของธนาคารเสียหาย จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน อัพเดททุกชั่วโมง จนได้กลุ่มผู้ต้องหารายนี้ไปสอบสวน ที่ สน. เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ต่อไป

สาวประเภทสองคลุ้มคลั่ง

ผู้ก่อเหตุอาละวาด สาวประเภทสองคลุ้มคลั่ง ทำร้ายทรัพย์สินธนาคาร พร้อมแจ้งว่าจะเข้าบ้าน 

เมื่อตำรวจ สภ.เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งการทำลายทรัพย์สินของธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ ได้พบกับสาวประเภทสองผมยาว กำลังถึงมีดอีโต้ด้วยอาการคลุ้มคลั่ง ส่งเสียงตะโกน อาละวาดในละแวกนั้น พร้อมระบุว่าจะเข้าไปในบ้าน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการเกลี้ยกล่อม พูดจาหว่านล้อมกับผู้ก่อนเหอะท่านนี้ใช้เวลานานกว่า 40 นาทีก็ไม่ได้ผล จึงจำเป็นต้องอาศัยจังหวะที่ผู้ก่อเหตุเผลอ และนำกำลังเข้าจับกุม เพื่อนำตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.เขาวง แต่ทันทีที่ไปถึง สภ.เขาวง ตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้ก่อเหตุ ก็ยังไม่ได้ความอย่างไร ผู้ก่อเหตุยังคงมีอาการคลุ้มคลั่ง เตือนภัย มิจฉาชีพ หลอกขโมยข้อมูล บัตรเครดิต ที่กลับมาอาละวาดอีกแล้ว  พูดคุยไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องทำการให้ยานอนหลับเพื่อให้ผู้ก่อเหตุสงบสติอารมณ์และทำการสอบสวนต่อในวันต่อไป

สาวประเภทสองคลุ้มคลั่ง ใช้อีโต้ฟันตู้ ATM

หลังจากนั้นบริเวณที่เกิดเหตุตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่าธนาคารได้รับความเสียหายเป็นกระจกที่แตก และตู้ ATM ที่ถูกมีดอีโต้ฟันได้รับความเสียหาย จึงได้ทำสอบสวนผู้ที่พบเหตุการณ์ โดยเป็นพนักงานขายของบริเวณนั้น ได้ให้การว่าต้นออกมาเก็บของด้านนอกพบผู้ก่อเหตุรายนี้เดินวนอยู่ที่หน้าตู้เอทีเอ็ม จึงได้ไปเรียกหัวหน้ามาดู และทั้งสองก็ได้เข้าไปสอบถามผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้บอกกับตัวว่าจะเข้าบ้านช่วยเปิดประตูให้หน่อย แต่ในมือมีมีดอีโต้ ทั้งสองจึงรีบวิ่งเข้าร้านและล็อคประตูไว้ ทันใดนั้นผู้ก่อเหตุจึงใช้มีดอีโต้ฟันกระจกโค้งธนาคารทำให้ข้าวของเสียหายการที่เห็น และส่งเสียงร้องโวยวาย ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ 

 สาวประเภทสองคลุ้มคลั่ง ทำร้ายทรัพย์สินธนาคาร

แต่อย่างไรก็ตามตำรวจก็ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาสำหรับผู้ก่อเหตุรายนี้ เนื่องจากพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงต้องรีบประสานญาติของผู้ก่อเหตุ ว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาทหรือไม่ หรือมีประวัติรับสารเสพติดหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการตรวจปัสสาวะของผู้ก่อเหตุด้วย ซึ่งหากพบว่าถ้ามีอาการทางปราสาทจริงๆ ไม่ได้รับสารเสพติดจริงๆ ก็จะมาตัวผู้ก่อเหตุไปรับโทษตามกฎหมาย แต่เบื้องต้นได้มีการตั้งข้อกล่าวหาสำหรับผู้ก่อเหตุรายนี้หนูก็หาทําลายทรัพย์สินผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย และบุกรุกสถานที่ของผู้อื่นนั่นเอง